SONY WIRELESS NOISE CANCELLING HEADSET WH-1000XM5 - BLACK

“ดีไซน์ใหม่แบบ all-new เพรียวบาง หรูหรา ใส่แล้วดูดี”
Sony WH-1000XM5 มีดีไซน์ที่ออกแบบใหม่ทั้งหมด ก้านหูฟังที่เล็กและบางมากขึ้น ส่วนของ earcup มีขนาดที่พอๆกับรุ่นที่แล้ว และมีนํ้าหนักที่เบากว่ารุ่นก่อนเล็กน้อยประมาณ 2 ขีด (248 กรัม) ครับ
การปรับความยาวก้านแบบใหม่ที่ทาง Sony เรียกว่า stepless design ที่สามารถปรับความยาวได้ละเอียดรับขนาดศีษระได้มากขึ้น ไม่มีสเตปกึกๆตอนปรับก้านเหมือนรุ่นที่แล้ว
แต่จุดที่แอบเสียดายในรุ่น WH-1000XM5 นี้คือมันพับเป็นอันเล็กๆเหมือน Sony WH-1000XM4 ไม่ได้ แต่ด้วยนํ้าหนักที่เบามาก และมีกระเป๋า hard case บางๆให้ใส่ ทำให้มันอยู่ในระดับที่ยังถือว่าพกพาง่าย ไม่กินเนื้อที่ในกระเป๋าสะพายมากครับ
ที่ซับหูฟังเป็นวัสดุหนังที่นิ่ม ยืดหยุ่น บีบแล้วคืนตัวได้ช้า และดูน่าใส่สบายมากๆครับ

“สวมใส่เบาสบายเหมือนเคย”
เท่าที่ทีมงาน 425Audio สวมใส่ Sony WH-1000XM4 แต่ละครั้งไม่ตํ่ากว่า ชั่วโมงถึงสองชั่วโมงกว่าๆ พบว่าสบายตลอดการสวมใส่มากๆครับ หูฟังก็บีบรับกับส่วนรอบๆหูแบบกำลังดี ใส่นานๆแล้วไม่รู้สึกปวดครับ
อีกทั้งเวลาใส่ใช้งานในห้องแอร์ ทีมงานยังไม่พบปัญหาเหงื่อออกเลย ซึ่งต่างจากรุ่นที่แล้วที่ใส่ใช้งานในห้องแอร์จะแอบมีเหงื่อเล็กๆน้อยๆ แต่ถ้าใส่ออกไปข้างนอกในอากาศร้อนๆแบบบ้านเราก็จะมีเหงื่อออกได้เป็นปกติครับ

“ANC ยังคงยอดเยี่ยมเป็นเบอร์ต้นๆของตลาด”
Sony WH-1000XM5 ยังคงเป๋นหูฟังตัดเสียงรบกวน active noise cancelling ที่เงียบที่สุดในตลาด ณ ตอนนี้ แต่หากเทียบกับ Sony WH-1000XM4 รุ่นที่แล้ว เท่าที่ทีมงาน 425Audio ทดสอบเทียบกัน พบว่าสามารถตัดเสียงรบกวนได้ในระดับพอๆกันครับ
แต่จุดที่ทำให้โหมด Active Noise Cancelling ของ Sony WH-1000XM5 ทำได้ดีกว่ารุ่น Mark 4 คือ “มันสบายและแทบไม่รู้สึกเวียนหัว” ต่างกับรุ่นก่อนที่จะแอบรู้สึกเวียนๆหัวเล็กน้อยครับ
ในส่วนของโหมดฟังเสียงรอบข้าง Ambient Sound ก็ยังทำได้ดี ให้เสียงชัด ดัง และฟังดูอย่างเป็นธรรมชาติ และยังคงสามารถใช้ฟังชัน Quick-Attention โดยการใช้ฝ่ามือแปะที่ earcup ข้างขวา เพื่อฟังเสียงรอบตัวแบบทันทีได้ และในรุ่นนี้ ฟังชันต่างๆตอบสนองได้ฉับไวมากขึ้นกว่าเดิม
ในส่วนของโหมด Adaptive Sound ก็ทำงานได้แม่นยำขึ้นครับ ไม่ว่าจะเดิน วิ่ง หรือนั่งเฉยๆ หูฟังก็จับอิริยาบทของผู้ใช้งาน และปรับระดับการตัดเสียงหรือระดับการฟังเสียงรอบตัวให้อัตโนมัติได้แม่นยำและเหมาะสมต่อการใช้งานมากขึ้นครับ

“คุยโทรศัพท์ดีกว่ารุ่นที่ผ่านมา..เยอะ !!!”
เท่าที่ทีมงาน 425Audio ทดสอบไมค์คุยโทรศัพท์ของ Sony WH-1000XM5 ต้องบอกเลยว่า “คุยชัดที่สุดในประวัติศาสตร์ซีรี่ย์นี้แล้ว” เพราะในรุ่นนี้ ทาง Sony ใช้เทคโนโลยีไมโครโฟนใหม่ ไมค์ AI deep learning ที่พัฒนาจากการเก็บตัวอย่างเสียงรบกวนประเภทต่างๆมากกว่าร้อยล้านเสียง
ใช้คุยในที่เงียบๆเช่นในออฟฟิศ เสียงพูดมีความอิ่มชัดและฟังดูอย่างเป็นธรรมชาติมากๆคล้ายกับได้คุยกันต่อหน้าเลย และสามารถกรองเสียง noise เช่นพวกเสียงแอร์เสียงพัดลมได้จนปลายสายแทบจะไม่รู้สึกถึงมันเลยครับ
พอมาใช้คุยในที่เสียงดังๆยิ่งว้าวกับมันมากๆ เพราะมันยังให้เสียงพูดที่ชัดเป็นธรรมชาติ (ถึงแม้จะดรอปกว่าใช้คุยในที่เงียบๆ) แต่ปลายสายก็ยังฟังเราพูดได้อย่างชัดถ้อยชัดคำ ในขณะที่เสียง noise ดังๆอย่างพวกเสียงรถยนต์ เสียงผู้คน ปลายสายแทบไม่ได้ยินเลยครับ
หากใครกังวลว่า SOny WH-1000XM5 ไมค์มันจะดีไหม ทีมงาน 425Audio ขอยืนยันว่าดีกว่าเดิมมากจนสามารถเทียบกับหูฟังแบรนด์อื่นที่ไมค์ดีๆในราคาใกล้ๆกันได้อย่างสบายๆครับ

“ดีเลย์ตํ่าเล่นเกมได้ ดูหนังสบายแทบไม่ดีเลย์”
ตอนใช้ Sony WH-1000XM5 ดูหนังทีมงาน 425Audio ทีมงานรู้สึกว่าเสียงตรงกับภาพเป็นอย่างดีบนแพล็ตฟอร์ม Netflix, Disney+ ทั้งบนอุปกรณ์ iOS และ Android เลยครับ
ส่วนเรื่องการเล่นเกมก็อยู่ในระดับที่ “พอใช้เล่นได้” ใช้เล่นเกม PUBG, APEX Legend เสียงแอบเหลื่อมกับภาพนิดเดียว ถ้าเล่นแบบไม่คิดอะไรก็สามารถใช้เล่นได้อย่างไม่ขัดใจ แต่ถ้าจับผิดก็จะมีรู้สึกเสียงเหลื่อมๆกับภาพเล็กน้อยบนอุปกรณ์ iOS ส่วน Android อาจจะหน่วงกว่า iOS เล็กน้อย แต่ก็ยังอยู่ในระดับที่พอใช้เล่นได้ครับ


“แอปพลิเคชัน Sony Headphone ใช้ง่าย ปรับได้ละเอียดเหมือนเดิม”
Sony WH-1000XM5 ยังคงรองรับ application Sony Headphone (iOS & Android) ที่มีหน้าตา UI ที่ใช้ง่าย และ users friendly มากๆครับ
ในแอปเราก็สามารถปรับตั้งค่าโหมดตัดเสียงรบกวน, ปรับ EQ แบบ presets และแบบ manual, เปิดใช้งานต่อ 2 อุปกรณ์พร้อมกัน และอื่นๆอีกมากมายที่ตอบสนองต่อผู้ใช้งานได้ดีและรวดเร็วมากครับ

“เบสเรียบร้อยขึ้น คุณภาพเสียงที่กระจ่างชัดยิ่งกว่าเดิม”
ในส่วนของคุณภาพเสียงนั้น เท่าที่ทีมงาน 425Audio ทดสอบเทียบกับรุ่นก่อน พบว่าเสียงต่างกันมากพอสมควรเลยครับ
จุดที่ดีขึ้นในแง่ของแนวเสียงของ Sony WH-1000XM5 คือการแยกแยะชิ้นดนตรีที่มีระยะช่องไฟที่มากกว่าตัวที่แล้ว ฟังจับรายละเอียดเสียงดนตรีแต่ละชิ้นได้ง่ายกว่ารุ่นก่อน และโทนเสียงจะคงมาสไตล์ Sony เช่นเดิม แต่สำหรับเพื่อนๆที่กังวลว่าเสียงเบสมันเบาลงกว่ารุ่นก่อนไหม ทีมงาน 425Audio ก็ขอบอกเลยว่า “มันไม่ได้เบาลง แต่เสียงแค่เรียบร้อยขึ้น” กล่าวคือ ท่านยังจะได้มวลเสียงเบสที่อวบกลมและอิ่มแน่น แรงปะทะฟังสนุก และได้เบสที่เก็บตัวได้กำลังสวยฟังสะอาด ไม่ไปกวนเสียงย่านอื่นๆแน่นอนครับ